Get Adobe Flash player

ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานฯ

Sahafr

บาทหลวงอนุรัตน์ ณ สงขลา

ผู้ช่วยพระสังฆราชฝ่ายงานธรรมทูต อัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

Facebook


banner face holych Custombanner_face_pmg_Custom.pngPresentation2 Custom

งานอื่นๆของฝ่าย

Slide6 CustomSlide5 Custom

เวลา

life
     ใครก็ตามที่ได้รับการสอนเรื่องพระธรรมล้ำลึกของพระเจ้า (divine mysteries) ก็จะสำนึกว่า ชีวิตมนุษย์ที่เป็นภาพลักษณ์ของพระเจ้านั้น ย่อมสมควรเหมาะเจาะกับธรรมชาติมนุษย์ เพราะชีวิตแห่งความรู้สึกสำนึกของเราตามธรรมชาติของเรานั้น ด้วยวิจารณญาณ ด้วยสามัญสำนึกที่บริสุทธิ์ใจและด้วยหัวใจที่เปิด จะนำเราสู่ความรู้ของสิ่งที่แลเห็นไม่ได้ ตามคำกล่าวในพระคัมภีร์ที่ว่า : เพราะจากความยิ่งใหญ่และความงดงามของสิ่งสร้างที่คล้ายกับพระผู้สร้าง มนุษย์เราก็น่าจะรู้จักพระองค์ได้ (ปรีชาญาณ 13 : 5) ใครที่สามารถมองทะลุความรู้สึก ความสำนึก ก็จะสามารถบรรลุถึงความจริง ความเป็นอยู่ (being) ของสิ่งสร้างต่างๆของพระเจ้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา (constantly changing)

พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าให้แสงสว่าง ให้ความอบอุ่น ในตอนค่ำพระอาทิตย์ตกนำความมืดเข้ามาแทนที่ วันรุ่งขึ้นก็เป็นเช่นนี้หมุนเวียนกันไป เป็นวงจรของชีวิต
ทะเลเป็นที่รองรับของน้ำที่ไหลผ่านคลอง แม่น้ำตลอดเวลาไม่มีวันหยุด แต่ทะเลก็มิได้กว้างใหญ่ขึ้น ก็เพราะมีการไหลเวียนกลับไป นั่นคือน้ำระเหยเป็นไอ เป็นเมฆ เป็นฝนตกบนแผ่นดิน น้ำก็ไหลลงจากเข ลงลำธาร คลอง แม่น้ำ ลงทะเลครบวงจร

     ปัญญาจารย์ 1:7 กล่าวว่า แม่น้ำทั้งหลายไหลลงสู่ทะเล แต่ทะเลก็ไม่เคยเต็มเลย แม่น้ำยังไหลต่อไปจากต้นน้ำ เพื่อเน้นว่า สิ่งที่ชีวิตเสาะแสวงหามากที่สุดมักจะเป็นสิ่งที่เสถียรน้อยที่สุด (least stable) หมายความว่า มีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด

     ลองคิดดูจากความอัศจรรย์ในธรรมชาติ บนท้องฟ้า บนแผ่นดิน ถ้าหากพระอาทิตย์ไม่มีการสลับให้แสงสว่าง (กลางวัน) และความมืด (กลางคืน) คือสว่างตลอดเวลา หรือมืดตลอดเวลา แล้วชีวิตจะเป็นอย่างไร ถ้าแม่น้ำนำน้ำสู่ทะเลอย่างไร้ผล คือไม่มีการเวียนกลับในรูปของฝน ชีวิต พืชไร่ต่างๆบนแผ่นดินจะเป็นอย่างไร
     ถ้าหากโลกเป็นเช่นนี้แล้ว ชีวิตของมนุษย์ที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อยู่กับที่ ความสำนึกตายด้าน ไม่สามารถมองทะลุสู่สิ่งที่แลเห็นไม่ได้ จะเป็นอย่างไรในที่สุด สรุปสั้นๆได้ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างในตัวมันเอง ณ กาลเวลาใด เวลาหนึ่ง ขณะนั้น ไม่เป็นอะไรเลย (nothing) เพราะมันจะวิวัฒนาการตัวมันเองสู่อีกสิ่งหนึ่ง ตามกระบวนการเปลี่ยนแปลง (everything is, in itself, nothing at each particular movement of time, since it is always evolving into something else through the process of change) จิตของเราก็จะเป็นเช่นนั้น จะเดินหน้าต่อไปจนครบวงโคจรตามวงจรแห่งชีวิต (ปัญญาจารย์ 1: 6)
ที่มา : ราฟาแอล, 2017 ชีวิตที่ต้องเผด็จ, กรุงเทพฯ, 2018 หน้า 613 – 614)

ศึกษาพระคัมภีร์

Catholic bible

ค้นหา

ประกาศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

bkk2020

ประกาศอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ

เรื่องมาตรการและแนวทางภาคปฏิบัติ

เพื่อการเข้าร่วมพิธีกรรมของคริสตศาสนิกชนคาทอลิก

แรงจูงใจในการประกาศพระวรสาร

 

บทความดีดี