/home/missionbkk/public_html/templates/30aug182/component.php on line 5
"> ปัสกาคือการเฉลิมฉลองความหวัง

rice

RESURRECTION LIFE
VICTORY.HOPE.
EASTER CHANGES EVERYTHING.
ปัสกาคือการเฉลิมฉลองความหวัง

สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ได้ทรงเทศน์สอนไว้ว่า ...
ในพระวรสาร เราได้ฟังเหตุการณ์ที่สตรีไปบอกสาวกทั้ง 11 คน ว่าเข้าไปในคูหาแล้วไม่พบศพพระเยซู และได้พบกับทูตสวรรค์ ซึ่งแจ้งว่า พระเยซูทรงกลับคืนชีพแล้ว แต่ว่าสาวกทั้ง 11 ไม่เชื่อ จากนั้น เปโตรลุกขึ้นและรีบวิ่งไปยังคูหา เขาเลือกจะไม่อยู่บ้านเหมือนที่สาวกคนอื่นทำกัน เปโตรไม่จำนนต่อบรรยากาศซึมเศร้าในช่วงนั้น และก็ไม่จำนนต่อความสงสัยของตนเอง เปโตรแสวงหาพระเยซู เขาเลือกที่เดินบนหนทางของการพบปะและความไว้วางใจ เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาจึงไปที่คูหาฝังพระศพ ณ ที่นั่น เขากลับมาบ้านด้วยความประหลาดใจ สิ่งที่เกิดขึ้นคือจุดเริ่มต้นของการกลับมามีชีวิตใหม่ของเปโตร นั่นคือ การที่หัวใจของเขากลับมามีชีวิตอีกครั้ง หัวใจของเขาไม่เศร้าและมืดมนอีกต่อไป เขาสร้างห้องใหม่ให้กับความหวังในใจ เขายอมให้ความสว่างของพระเจ้าเข้าสู่จิตใจของตนเอง

     สตรีเหล่านั้นก็เช่นกัน เช้าตรู่วันนั้น พวกเธอเตรียมจะไปทำงานที่เปี่ยมด้วยความเมตตา โดยการนำเครื่องหอมมาที่คูหาฝังพระศพ พวกเธอตกใจกลัวและก้มหน้ามองดิน เมื่อเห็นทูตสวรรค์ แต่แล้วพวกเธอก็ได้รับแรงกระตุ้นจากวาจาของทูตสวรรค์ที่กล่าวว่า "พวกเธอมองหาคนเป็นในหมู่คนตายทำไม"
พวกเราเช่นกัน เราต้องเป็นเหมือนเปโตรและสตรีเหล่านี้ เราไม่สามารถพบกับชีวิตด้วยการเป็นทุกข์โศกและไร้ความหวัง ขอให้เราอย่าถูกจองจำอยู่ในตัวเอง แต่ขอให้เราทลายหินที่คูหานั้น      เพื่อให้พระเจ้าเข้ามาในชีวิตของเรา พระคริสตเจ้าต้องการเข้ามาในชีวิตของเรา จับมือเรา และนำเราออกจากความเศร้าโศก นี่คือหินก้อนแรกที่ถูกกลิ้งออกในคืนนี้ หินของการไร้ความหวังซึ่งจองจำเราไว้กับตัวเอง ขอให้เราอย่าปล่อยให้ความมืดและความกลัวมากวนใจและสั่งการเรา แต่เราต้องร้องออกมาว่า พระเจ้าไม่ได้อยู่ที่ตรงนี้แล้ว พระองค์เสด็จกลับคืนชีพแล้ว พระองค์คือความชื่นชมยินดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุด พระองค์อยู่ข้างเราเสมอและไม่ทำให้เราล้มลง
     สิ่งนี้แหละคือพื้นฐานแห่งความหวังของเรา ไม่เหมือนการมองโลกในแง่ดี และก็ไม่ใช่ทัศนคติเชิงจิตวิทยาและความปรารถนาที่จะมีความกล้า แต่ความหวังตามแบบฉบับคริสตชนคือของขวัญที่พระเจ้ามอบให้เรา ถ้าเราก้าวออกจากตัวเองและเปิดใจให้กับพระองค์
     ดังนั้น ปัสกาคือการเฉลิมฉลองความหวังของเรา นี่คือการฉลองแห่งความจริง ไม่มีสิ่งใดและไม่มีใครจะมาพรากเราไปจากความรักของพระเจ้าได้ พระเจ้ากลับเป็นขึ้นมาแล้ว และพระเจ้าต้องการที่จะถูกแสวงหาในหมู่คนเป็น หลังจากพบพระองค์แล้ว เราแต่ละคนจะถูกส่งออกไปประกาศการกลับคืนชีพนี้ เพราะนี่คือสารของปัสกา กล่าวคือ เราต้องออกไปปลุกและทำให้ความหวังในใจของคนที่ถูกเผาไหม้ด้วยความเศร้าโศกได้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ยังแสวงหาความหมายของชีวิต
อย่างไรก็ตาม เราต้องไม่ประกาศตัวเราเอง แต่เราต้องเป็นข้ารับใช้ของความหวัง เราต้องประกาศการเสด็จกลับคืนชีพของพระคริสตเจ้าโดยผ่านทางชีวิตของเราและความรักของเรา มิฉะนั้น ตัวเรา (พระศาสนจักร) จะกลายเป็นแค่หน่วยงานสากลที่เต็มไปด้วยผู้ติดตามจำนวนมากและกฏเกณฑ์ต่างๆ แต่ไม่สามารถมอบความหวังให้กับโลก

ที่มา : นิตยสารแม่พระยุคใหม่ นิตยสารราย 2 เดือน ฉบับที่ 230 ปีที่ 39 มีนาคม - เมษายน 2020/2563 หน้า 20